เปรียบเทียบ Chevrolet Spin 2018-2019 กับคู่แข่ง Suzuki Ertiga 2018-2019

1. แนะนำ

เชฟโรเลต สปินอเนกประสงค์ MPV ที่เผยโฉมรุ่นล่าสุดออกมาถึง 2 รุ่น ทั้งจาก Chevrolet Spin 2019 ที่มีการปรับโฉมให้มีความโฉบเฉี่ยวกว่าในรุ่นก่อนหน้าแต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เอาไว้ด้วยการติดตั้งเบาะนั่งภายในจำนวน 7 ที่นั่ง และ Chevrolet Spin Activ 2019 รถเอ็มพีวีอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับการเผยโฉมออกมาพร้อมๆกันสร้างความโดดเด่นด้วยรูปทรงภายนอกที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับรถในตระกูลครอสโอเวอร์แตกต่างเพียงมีการถอดล้ออะไหล่บริเวณด้านหลังออกเท่านั้น ทั้งนี้เชฟโรเลตยังคงไม่มีแผนการนำ Chevrolet 2019 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแต่อย่างใด

รถยนต์ Chevrolet Spin Activ 2019

ทางด้านคู่แข่งร่วมเซกเมนท์เดียวกันอย่าง Suzuki Ertiga รถอเนกประสงค์ MPV 7 ที่นั่ง ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แพลตฟอร์มฮาร์ทเทค (Heartect) ส่งผลให้มีโครงสร้างตัวถังที่มีน้ำหนักเบาแต่ยังคงความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้นทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ Dual SRS และ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกแบบ ABS เสริมด้วยห้องโดยสารขนาดใหญ่ติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกมากมายทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ ให้ความบันเทิงด้วยชุดเครื่องเสียง 2DIN เริ่มต้นเพียง 655,000 บาท   

รถยนต์ Suzuki Ertiga

2. เปรียบเทียบราคา Chevrolet Spin 2018-2019 กับ Suzuki Ertiga 2018-2019

Chevrolet Spin 2019 ได้รับความนิยมในแถบอเมริกาใต้โดยเฉพาะในประเทศบราซิลอย่างล้นหลามด้วยโครงสร้างตัวถังและรูปลักษณ์ภายนอกที่มีการออกแบบให้โฉบเฉี่ยวดูปราดเปรียวสะดุดตามากยิ่งขึ้น ส่วนบ้านเราในอดีตมีการนำ Chevrolet Spin รุ่น 1.5 LTZ เข้ามาทำตลาดแต่ก็ได้ยุติการจำหน่ายลงเนื่องจากไม่ได้รับความนิยมมากนักเพราะกระแสรถครอสโอเวอร์ในปัจจุบันที่ได้รับความนิยมมากกว่าเท่าตัว

ด้านข้างติดตั้งคิ้วกันกระแทกสีดำเงา

ราคาจำหน่าย Chevrolet Spin มีดังนี้

Chevrolet Spin รุ่น 1.5 LTZ ราคา 762,000 บาท (ปัจจุบันยกเลิกการจำหน่าย)

Suzuki Ertiga 2018 มาพร้อมกับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 6.5 แสน ซึ่งถือเป็นราคาที่ไม่สูงมากนักหากนำมาเปรียบเทียบกับรถในตระกูล MPV ด้วยกันจากค่ายอื่น เสริมด้วยทางเลือกรุ่นย่อยที่มีให้ถึง 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น GL , รุ่น GX และ รุ่น Dreza ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.4 ลิตร รวมถึงเบาะนั่งภายในจำนวน 3 แถว 7 ที่นั่งนับเป็น MPV อีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจตอบโจทย์รถครอบครัวอย่างแท้จริง

Suzuki Ertiga มาพร้อมกับเส้นสายสุดโฉบเฉี่ยว

ราคาจำหน่าย Suzuki Ertiga มีดังนี้

Suzuki Ertiga รุ่น GL AT ราคา 655,000 บาท

Suzuki Ertiga รุ่น GX 4 A/T ราคา 695,000 บาท

Suzuki Ertiga รุ่น DREZA AT ราคา 715,000 บาท

3. เปรียบเทียบภายนอก Chevrolet Spin 2018-2019 กับ Suzuki Ertiga 2018-2019

Chevrolet Spin 2019 มีขนาดตัวถังจัดอยู่ในกลุ่ม B-Segment ในสไตล์รถครอบครัว เพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าแบบใหม่ล่าสุดคล้ายคลึงกับที่ติดตั้งอยู่ในเชฟโรเลต ครูสพร้อมระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์ Follow-Me-Home ติดตั้งไฟตัดหมอกทั้งในด้านหน้าและด้านหลัง อีกทั้งยังสะกดสายตาทุกคู่ด้วยกระจังหน้าแบบ Dual Port สีดำเงาอันเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้รวมถึงฝากระโปรงหน้าที่มีการดีไซน์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ลดแรงต้านจากกระแสลมขณะวิ่งทำความเร็วได้มากยิ่งขึ้น 

Suzuki Ciaz 2018 รีวิว จุดเด่นมีอะไร ทำไมถึงน่าซื้อ ?

กระจังหน้าแบบ Dual Port

Chevrolet Spin เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านบนหลังคาด้วยการติดตั้งแร็คหลังคาสีเงินขนาดใหญ่ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวปรับและพับอัตโนมัติ ติดตั้งชายบันไดสีเงินพร้อมมือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ ส่วนในรุ่น Activ มีการติดตั้งคิ้วกันกระแทกรอบคันเพิ่มเข้ามาให้รวมถึงแถบกันกระแทกสีดำเงาด้านข้างตัวรถ อีกทั้งยังตกแต่งคิ้วประตูด้วยสีดำเงา ด้านหลังติดตั้งสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED กันชนท้ายตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยม นับว่าการดีไซน์ภายนอกของเชฟโรเลต สปินดูมีความน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าซูซูกิ เออร์ติก้า

สปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ทางด้าน MPV ร่วมเซกเมนท์เดียวกันอย่าง Suzuki Ertiga ได้รับการตกแต่งภายนอกอย่างประณีตด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ล่าสุด กันชนหน้าแบบสปอร์ต และ สเกิร์ตข้าง ติดตั้งไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ Front For Lamps ตกแต่งด้วยกรอบโครเมี่ยม กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา 2 จังหวะ มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถรวมถึงเส้นสายรอบตัวรถที่ถูกปรับดีไซน์ให้โดดเด่นได้อย่างลงตัว

กระจังหน้าสีดำเงา

ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตติดตั้งไฟเบรกแบบ LED ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ล่าสุดพร้อมวัสดุโครเมี่ยมตกแต่งบริเวณประตูท้ายรวมถึงไฟส่องสว่างบริเวณป้ายทะเบียนและที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง ช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/65 R15 สำหรับมิติตัวถัง Suzuki Ertiga ยาว 4,395 มม. กว้าง 1,735 มม. สูง 1,690 มม. ส่งผลให้โครงสร้างตัวถังมีขนาดที่ใหญ่โตกว่าในรุ่นก่อนหน้าแต่ความสูงใต้ท้องรถกลับลดลงเพื่อเพิ่มความสมดุลเมื่อขับขี่บนท้องถนนโดยใช้อัตราความเร็วสูง

สปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

4. เปรียบเทียบภายใน Chevrolet Spin 2018-2019 กับ Suzuki Ertiga 2018-2019

เชฟโรเลต สปิน 2019 ได้รับการตกแต่งภายในอย่างพิถีพิถันด้วยเฉดสีทูโทนดำ-เทา คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุสีเทา แผงประตูด้านข้างตกแต่งด้วยวัสดุสีเทาสุดโดดเด่น กรอบช่องแอร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินโครเมี่ยม ติดตั้งเบาะนั่งภายในจำนวน 7 ที่นั่งหุ้มหนังตกแต่งด้วยเฉดสีทูโทนดำ-เทาเย็บเก็บตะเข็บด้วยด้ายสีเหลืองพร้อมปักอักษร Activ บนพนักพิงหลัง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับพับราบไปกับพื้นได้เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้สอยภายในรถ และ มือจับประตูด้านในแบบโครเมี่ยมล้ำหน้าด้วยกระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

ภายในตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-เทา

Chevrolet Spin 2019 ได้รับการติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอขนาดใหญ่รองรับ Apple Carplay และ Android Auto อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ ติดตั้งระบบนำทาง Navigator พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB นอกจากนี้แล้วยังได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอีกมากมาย อาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมปุ่มกดไฟฉุกเฉินรูปแบบใหม่ อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลังที่มีความจุมากถึง 162 ลิตร นับว่าฟังก์ชั่นเสริมภายในเชฟโรเลต สปินไม่น้อยหน้าไปกว่าซูซูกิ เออร์ติก้า

เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับพับราบไปกับพื้นได้

Suzuki Ertiga ได้รับการตกแต่งภายในด้วยสีทูโทนดำ-ครีม พร้อมห้องโดยสารขนาดใหญ่คอนโซลหน้าสีทูโทนสุดเรียบหรู เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีดำสลับกับการตกแต่งด้วยลายบริเวณส่วนกลางของเบาะ โดยเบาะนั่งฝั่งคนขับสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ ยกเว้นในรุ่น 2.8 V ปรับเบาะด้วยสวิตช์ไฟฟ้าในตำแหน่งเดินหน้า-ถอยหลัง ปรับเอน และ ปรับเบาะรองนั่งสูง-ต่ำ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 และ เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับพับแบบ 50:50 เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลังมากยิ่งขึ้น

คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยสีดำเงา

Suzuki Ertiga ติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครันทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ เครื่องเสียง 2DIN พร้อมเครื่องเล่น DVD และ วิทยุ พร้อม 2DIN Function รองรับการเชื่อมต่อ USB เพิ่มความเร้าใจด้วยลำโพงรอบห้องโดยสารจำนวน 6 ตำแหน่ง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Information Display พร้อมมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันและแสดงค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง ติดตั้งระบบปรับอากาศบริเวณที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง ถือว่าฟังก์ชั่นการใช้งานภายใน Suzuki Ertiga น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว   

เบาะนั่งภายในจำนวน 3 แถว 7 ที่นั่ง

5. เปรียบเทียบเครื่องยนต์ Chevrolet Spin 2018-2019 กับ Suzuki Ertiga 2018-2019

Chevrolet Spin ได้รับการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual-VVT ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที ติดตั้งระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดมัลติพอยท์ (Multi-Point Fuel Injection) ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Driver Shift Control ให้การประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งนี้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ได้รับการติดตั้งเข้ามาในรถรุ่นนี้สามารถให้การเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวลไร้ซึ่งอาการกระตุกตอบสนองทุกอัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็วนับเป็นนวัตกรรมระบบส่งกำลังแบบใหม่จากฟอร์ดที่มุ่งเน้นเติมเต็มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่

เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Dual-VVT ขนาด 1.5 ลิตร

Suzuki Ertiga 2018 ได้รับการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน K14B 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 130 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด รองรับเชื้อเพลิง E20 พร้อมการรับรองมาตรฐานลดการปล่อยมลพิษในระดับ EURO 4 อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งระบบ VVT ที่ช่วยกำหนดการทำงานของวาล์วไอดีได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้ระบบไอเสียทำงานได้ดียิ่งขึ้น ด้วยขนาดเครื่องที่ไม่ใหญ่มากนักส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาสามารถตอบสนองอัตราการเร่งได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่ากับการจัดหารถในสไตล์ MPV ที่มีระดับราคาไม่สูงมากนัก

เครื่องยนต์เบนซิน K14B 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.4 ลิตร

6. เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย Chevrolet Spin 2018-2019 กับ Suzuki Ertiga 2018-2019

Chevrolet Spin 2019 ปกป้องผู้ขับขี่ในทุกเส้นทางผ่านระบบถุงลมนิรภัยด้านหน้าแบบ SRS พร้อมเข็มขัดนิรภัยในทั้ง 7 ที่นั่ง เสริมด้วยการติดตั้งสัญญาณป้องกันการโจรกรรม และ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer นอกจากนี้แล้วยังได้รับการติดตั้งฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ ระบบเซ็นทรัลล็อก ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS และ ระบบเสริมแรงเบรกแบบ BA นับว่าระบบความปลอดภัยในเชฟโรเลต สปินน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

เทคโนโลยีวัสดุซับเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน (NVH)

ระบบความปลอดภัยใน Chevrolet Spin มีดังนี้

• ระบบไฟส่องสว่างภายหลังการดับเครื่องยนต์แบบ Follow-Me-Home
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
• ระบบกันขโมยและสัญญาณป้องกันการโจรกรรม
• ระบบเซ็นทรัลล็อก
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกแบบ ABS
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS ด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
• ระบบเสริมแรงเบรกแบบ BA
• เข็มขัดนิรภัยทั้ง 7 ที่นั่ง
• สัญญาณเตือนการลืมคาดเข็มขัดนิรภัย

Suzuki Ertiga มอบความปลอดภัยในทุกเส้นทางผ่านถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS ที่ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่นย่อยช่วยลดอาการบาดเจ็บของผู้โดยสารที่เกิดจากแรงกระแทกรวมถึงระบบเบรกป้องกันล้อล็อกแบบ ABS และ ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังนำโครงสร้างตัวถังแบบเทค (TECT) ที่ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนได้รอบทิศทาง

ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS

ระบบความปลอดภัยใน Suzuki Ertiga มีดังนี้

• ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกแบบ ABS
• ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBD
• โครงสร้างตัวถังแบบเทค (TECT) 
• เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
• ระบบช่วยการทรงตัวแบบ ESP
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ ISOFIX

7. สรุป

Chevrolet Spin 2019 สร้างความโดดเด่นด้วยการดีไซน์ปรับโฉมภายนอกให้กลายเป็นอเนกประสงค์ เอ็มพีวีสุดสปอร์ตเต็มเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกในชนิดที่เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งจากพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง หน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่รองรับ Apple Carplay พร้อมระบบนำทาง Navigator เสริมด้วยระบบไฟส่องสว่างภายหลังการดับเครื่องยนต์แบบ Follow-Me-Home และ เบาะนั่งภายในจำนวน 3 แถว 7 ที่นั่ง เคาะราคาเริ่มต้นที่ 7.6 แสน ถือว่าไม่สูงมากนัก

ส่วน Suzuki Ertiga 2019 รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่ชูจุดเด่นด้วยรูปโฉมภายนอกสุดโฉบเฉี่ยวภายใต้การออกแบบอย่างพิถีพิถันพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานภายในที่ได้รับการติดตั้งมาอย่างครบครัน เสริมด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน K14B 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.4 ลิตร ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ให้อัตราการเร่งที่ดีเยี่ยมในราคาเริ่มต้นเพียง 6.5 แสน เท่านั้น จัดเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่สนใจรถแนวครอบครัว

ดูเพิ่มเติม:

• Chevrolet Captiva มือสองดีไหม มีข้อเสียอะไรบ้าง

• แต่ง Chevrolet Captiva 2018 ให้สวย ด้วยการมิกซ์ แอนด์ แมทช์