ประกันรถกระบะ เชิงพาณิชย์ คืออะไร แตกต่างจากรถกระบะทั่วไปอย่างไร

ในปัจจุบันรถยนต์แต่ละประเภทถูกนำมาใช้งานในรูปแบบเชิงพาณิชย์อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รถตู้ รถเก๋ง หรือรถกระบะที่ถูกออกแบบและดัดแปลงขึ้นมาเป็น รถ เพื่อ การ พาณิชย์ ซึ่งเหล่าเจ้าของธุรกิจทั้งหลายควรให้ความสำคัญในเรื่องของการเลือกประกันภัยสำหรับรถเชิงพาณิชย์ที่จะมีความแตกต่างจากประกันภัยสำหรับรถส่วนบุคคล เนื่องจากเวลาที่เกิดอุบัติเหตุประกันเชิงพาณิชย์จะสามารถคุ้มครองทั้งในส่วนของความเสียหายรถยนต์ ค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ และความเสียหายของบุคคลภายนอก โดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายเองเลยสักบาทเดียว วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประกันรถกระบะเชิงพาณิชย์ว่ามีความแตกต่างจากประกันรถกระบะทั่วไปอย่างไรบ้าง

ประกันรถกระบะ เชิงพาณิชย์ คืออะไร

สำหรับ ประกันรถกระบะ เชิงพาณิชย์ เป็นรูปแบบของประกันที่ถูกออกแบบมาเพื่อคุ้มครองรถยนต์ขนาด 4 ล้อขึ้นไป โดยจดเป็นทะเบียนนิติบุคคลเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์และใช้โดยสารสาธารณะ รวมทั้งยังสามารถเลือกแผนกรมธรรม์ได้เพื่อเลือกความคุ้มครองที่มอบความคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งประกันรถกระบะเชิงพาณิชย์มีเงื่อนไข ดังนี้

• ใช้งานในธุรกิจและโดยสารสาธารณะ
• จดทะเบียนถูกต้องเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์กับกรมการขนส่งทางบก
• จดทะเบียนในนามนิติบุคคลเท่านั้น
• หากใช้รถผิดวัตถุประสงค์สามารถปฎิเสธการเคลมได้ทันที

ประกันรถเชิงพาณิชย์มีความแตกต่างอย่างไร

หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าประกันรถเชิงพาณิชย์กับประกันรถธรรมดาทั่วไปมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยประกันรถเชิงพาณิชย์จะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่าประกันแบบปกติ เนื่องจากมีการใช้งานรถมากกว่า ซึ่งอัตราเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับจำนวนทุนเอาประกัน อายุการใช้งานรถยนต์ อายุผู้ขับขี่ ฯลฯ โดยที่ผู้ขับขี่จะต้องทราบถึงจุดประสงค์ในการออกรถหนึ่งคันมาอยู่แล้วว่าใช้งานในรูปแบบไหน เพราะในปัจจุบันรถแต่ละคันได้มีการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานมาอย่างหลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งานได้ตามความต้องการ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกทำรูปแบบประกันได้ ดังนี้

• รถกระบะที่ใช้งานเป็นรถส่วนบุคคล หากผู้ขับขี่ออกรถกระบะมาเพื่อขับขี่ใช้งานภายในชีวิตประจำวัน เช่น ขับไปทำงาน ขับพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือขับขนสัมภาระส่วนตัว การใช้งานในประเภทนี้ควรเลือกทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 รวมทั้งยังต้องสังเกตด้วยว่ารหัสลักษณะรถยนต์ที่ระบุในกรมธรรม์สำหรับรถกระบะใช้ส่วนบุคคลจะเป็นรหัส 210
• รถกระบะที่ใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวแล้วออกรถกระบะมาเพื่อใช้งานในรูปแบบเชิงพาณิชย์มักจะทำประกันภัยชั้น 3 หรือประกันภัยชั้น 2 หรือ 2+ ซึ่งในแบบหลังนี้จะมีความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1 มากที่สุด

เทคนิคการเลือกบริษัทประกันภัยรถกระบะ

หากผู้ขับขี่ซื้อรถกระบะมาแล้วแต่ยังไม่มีบริษัทประกันในใจ การเลือกเอาข้อเสนอและเบี้ยประกันภัยรถยนต์ของแต่ละเจ้ามาเปรียบเทียบกันจะทำให้เห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน รวมทั้งยังเห็นถึงความคุ้มครองของแต่ละที่ที่แตกต่างกันและจะพบว่าที่ไหนคุ้มครองได้มากที่สุด ต่อมาคือความรวดเร็วในการให้บริการ ทั้งเรื่องความรวดเร็วและการให้บริการที่ดี หรือความเชี่ยวชาญของพนักงานบริษัทประกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้เอาประกันมีความต้องการมากที่สุด สุดท้ายคืออู่ซ่อมรถที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถจะต้องทำการตรวจเช็กให้ละเอียดว่าบริษัทประกันภัยมีอู่ซ่อมรถที่ได้มาตรฐานมากน้อยแค่ไหน เพื่อทำให้ผู้ขับขี่สามารถอุ่นใจและคลายความกังวลในเรื่องของปัญหาหลังการซ่อมได้ว่าจะไม่มีปัญหาใด ๆ ตามมาในภายหลังอีก

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยสำหรับรถกระบะเชิงพาณิชย์หรือประกันภัยสำหรับรถยนต์ทั่วไป การให้ความสำคัญในการเลือกบริษัทประกันภัยเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบให้ดีว่าบริษัทประกันที่เราเลือกมีความคุ้มครองมากน้อยเพียงใด ให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจของเจ้าของรถสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกโดยที่ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องประกันภัยอีกต่อไป

ดูเพิ่มเติม

รวม 5 วิธี ไล่ฝ้ากระจกรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยตลอดการขับขี่

5 รถสำหรับผู้สูงอายุ มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ