เปรียบเทียบ Honda City กับคู่แข่ง Toyota Vios ซื้อคันไหนดี

Honda City กับ Toyota Vios คันไหนดีกว่า?

ทั้งนี้ Honda City เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นด้วยทางเลือกสีตัวถังแบบใหม่ถึง 6 เฉดสี ด้วยกัน ได้แก่ สีน้ำเงิน คอสมิก-เมทัลลิก (เฉพาะรุ่น SV/SV Plus) , สีขาว ออร์คิด มุก , (เฉพาะรุ่น SV/SV Plus) , สีเทา โมเดิร์นสตีล (สำหรับทุกรุ่นยกเว้นรุ่น S) , สีดำ คริสตัล , สีขาว ทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น V Plus / V/S) และ สีเงิน-ลูนาร์ เมทัลลิก ผนวกกับความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีที่ให้มาแบบเต็มเหนี่ยว อาทิ มาตรวัดเรืองแสง (Self-Illuminating Meters) สีขาว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ MID ที่พ่วงติดมากับไฟแสดงข้อมูลการขับขี่แบบประหยัด

นอกจาก Honda City 2018 ที่ได้รับความสนใจอยู่ในปัจจุบันแล้วยังมีรถยนต์อีกยี่ห้อหนึ่งที่ได้รับความนิยมที่ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน Toyota vios 2018 จัดเป็นรถยนต์แนว City Car ซีดานขนาดเล็กอีกรุ่นที่ให้ความคล่องตัวสูงเหมาะกับการใช้งานในเมืองที่มีสภาพการจราจรติดขัด พร้อมการดีไซน์ช่วงล่างที่ได้รับการการันตีว่าดีเยี่ยมทำให้สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบสร้างคะแนนนิยมจากบรรดานักขับทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ได้อย่างล้นหลาม

ดูเพิ่มเติม:  เปอร์โย

Honda City 2018

สอปรกับการที่โตโยต้ายังไม่หยุดคิดค้นพัฒนารถยนต์ซีดานรุ่นเล็กนี้ให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานภายในที่ทันสมัยตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานในยุค 4.0 ได้อย่างน่าสนใจ ปัจจุบัน Toyota Vios รุ่นใหม่ล่าสุด 2018 มาด้วยทางเลือกถึง 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 1.5 J , 1.5 E , รุ่น 1.5 G และ รุ่น 1.5 S โดยทั้งหมดถูกออกแบบติดตั้งมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติยิ่งสร้างความสะดวกสบายให้กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของหนุ่มสาวยุคใหม่จึงไม่น่าแปลกใจที่ Toyota vios ได้รับความนิยมมากกว่ารถเก๋งรุ่นอื่นใน Segment เดียวกัน

Toyota Vios 2018

เปรียบเทียบราคา Honda City กับ Toyota Vios

Honda City ได้รับความสนใจจากตลาดรถยนต์ในเมืองไทยเป็นอย่างมากด้วยสมรรถนะของรถที่คุ้มค่าในราคาเริ่มต้นสบายกระเป๋าเพียง 550,000 บาท ซึ่งถือว่าคุณภาพคุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย เสริมด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ (SOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังเร่งได้อย่างเต็มที่พร้อมตัวเลือกรุ่นย่อยที่มีความหลากหลายกว่าทำให้ Honda City ดูเหนือกว่า Toyota Vios อยู่เล็กน้อย นอกจากนี้ Honda City รุ่นใหม่นี้ยังได้มีการเสริมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในที่ครบครันอีกด้วย

ราคา Honda City รุ่นใหม่ล่าสุดมีดังนี้

Honda City รุ่น S MT ราคา 550,000 บาท

Honda City รุ่น S CVT ราคา 589,000 บาท

Honda City รุ่น V CVT ราคา 649,000 บาท

Honda City รุ่น V+ CVT ราคา 689,000 บาท

Honda City รุ่น SV CVT ราคา 736,000 บาท

Honda City รุ่น SV+ CVT ราคา 751,000 บาท

ส่วนโตโยต้าวีออสที่ได้รับความเชื่อถือเป็นรถพิมพ์นิยมจากค่ายโตโยต้าการันตีความเป็นอันดับ 1 ในยอดขายรถยนต์รุ่นเล็กก็ไม่ได้น้อยหน้าฮอนด้าซิตี้มากนักด้วยเครื่องยนต์ 2NR-FBE Dual VVT-i 4 สูบ แถวเรียง DOHC ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมรูปทรงภายนอกที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวถูกใจนักขับกลุ่มวัยรุ่นในราคาเริ่มต้นสบายกระเป๋าเพียง 609,000 ในรุ่น J ซึ่งไม่ได้เริ่มต้นเรทราคาที่สูงมากนักเมื่อเทียบกับสมรรถนะการขับขี่รวมถึงระบบช่วงล่างที่ดีเยี่ยม

สำหรับราคา All New Toyota Vios 2018 มีดังนี้

Toyota Vios รุ่น J ราคา 609,000 บาท

Toyota Vios รุ่น E ราคา 679,000 บาท

Toyota Vios รุ่น G ราคา 729,000 บาท

Toyota Vios รุ่น S ราคา 789,000 บาท

เปรียบเทียบภายนอก Honda City กับ Toyota Vios

ดีไซน์ภายนอกของ Honda City มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มกระจังหน้าโครเมียม และ คิ้วฝากระโปรงท้ายแบบโครเทียมเช่นเดียวกันยิ่งทำให้ Honda City รุ่นนี้ดูโดดเด่นขึ้นกว่าเดิม เสริมด้วยช่วงล่างล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ล่าสุดสร้างอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น

Nissan GTR Premium Edition 2018 ใหม่ สุดยอดยนตรกรรมระดับโลก

Honda City 2018

ส่วนออฟชั่นภายนอกอย่างอื่นไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมมากนักมีการเพิ่มชุดไฟหน้าแบบ LED พร้อมทั้งการออกแบบติดตั้งไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running lights ในทุกรุ่นย่อยทำงานร่วมกับไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED รวมถึงที่ปัดน้ำฝนหน่วงเวลา เสาอากาศแบบ Shark Fin พิเศษสุดกับกล้องมองหลังแบบปรับมุมมองได้ 3 ระดับ โดย Honda City รุ่นนี้ไม่ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์หลังมาด้วย

สำหรับคู่แข่งรายสำคัญ Toyota Vios โฉมใหม่ 2018 ภายนอกได้รับการดีไซน์ให้มีความสปอร์ตมากขึ้นด้วยการเพิ่มความทันสมัยเข้าไปได้อย่างลงตัวโดยเฉพาะชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์รมดำ พร้อมไฟ LED Light Guide สะดวกสบายกับไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running Lights และ ไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ล่าสุดสีเทาดำ-เมทัลลิก เสริมด้วยกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ ไฟท้าย LED เช่นเดียวกันรวมถึงคิ้วฝากระโปรงท้ายตกแต่งด้วยแถบโครเมียม ส่วนช่วงล่างมากับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาดกว้าง 195/50 R16   

Toyota Vios 2018

เปรียบเทียบภายใน Honda City กับ Toyota Vios

ภายในฮอนด้า ซิตี้ให้ความโดดเด่นอย่างเหนือระดับจากการตกแต่งภายในด้วยสีดำผสมกับลายสปอร์ตสวยหรู คอนโซลหน้าตกแต่งจากวัสดุพิเศษแบบ Piano Black พร้อมรองรับการขับขี่ในระยะทางไกลด้วยที่นั่งสำหรับคนขับสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ รวมถึงเบาะนั่งด้านหลังปรับ 60:40 ก้าวล้ำด้วยมาตรวัดเรืองแสง (Self-Illuminating Meters) สีขาว ทำงานผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ MID เสริมด้วยนวัตกรรมใหม่ไฟแสดงข้อมูลการขับขี่แบบประหยัด ควบคุมรถได้อย่างดีเยี่ยมด้วยระบบพวงมาลัยแบบแรค แอน พิเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS)

พวงมาลัยแบบแรค แอน พิเนียน

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส

นอกจากนี้แล้ว Honda City 2018 ยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ( 7-Speed Paddle Shift) และ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) พร้อมสวิตช์ควบคุมบนพวงมาลัยที่รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ส่วนระบบการเชื่อมต่อข้อมูลใน Honda City ควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth HDMI AUX และ Smart Phone พร้อมลำโพงจำนวน 8 ตำแหน่ง ที่ให้เสียงกระหึ่มได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับภายในของ Toyota vios พบกับการออกแบบอย่างประณีตพร้อมฟังก์ชั่นอุปกรณ์เสริมที่ติดมาด้วยครับครัน อาทิ คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ตตกแต่งสีแดง เบาะนั่งดีไซน์ใหม่เพิ่มความโดดเด่นด้วยหนังสีดำสลับแดง พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยแถบเปียโนแบล็คควบคุมได้ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง ส่วนหัวเกียร์และฐานเกียร์ตกแต่งแบบเปียโนแบล็คเช่นเดียวกัน เสริมด้วยมาตรวัดดีไซน์สปอร์ตพร้อมสัญลักษณ์ ECO แสดงผลเมื่อขับขี่แบบประหยัดที่มาพร้อมกับจอแสดงข้อมูลขับขี่แบบ MID (Multi-information display)

คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ตตกแต่งสีแดง

พวงมาลัยหุ้มหนังตกแต่งด้วยแถบเปียโนแบล็คควบคุมได้ 4 ทิศทาง

เปรียบเทียบเครื่องยนต์ Honda City  กับ Toyota Vios

Honda City ส่งกำลังผ่านทุกขุมความเร็วด้วยเครื่องยนต์ (SOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ให้ความเร็วได้อย่างเต็มที่ โดยมีอัตราการเร่งตั้งแต่ 0-100 กิโลเมตร ภายใน 11.8 วินาที ถือว่ามีความเร็วที่ดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับรถยนต์ในรุ่นเดียวกันจากค่ายอื่น พร้อมเติมเต็มทุกอัตราการเร่งด้วยระบบเกียร์ CVT 7 สปีด ที่ทำงานได้อย่างไม่ติดขัดโดยมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 16.3 กิโลเมตร/ลิตร

NEXT GEN’ แล้วโลกจะได้เห็น.. Mazda 6 เครื่องซูปเปอร์ชาร์จ 6 สูบ!?

เครื่องยนต์ (SOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร

ส่วน Toyota Vios 2018 มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ 2NR-FBE Dual VVT-i 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาว์ล ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งผ่านทุกความเร็วด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ให้ทุกการขับขี่ราบรื่นและนุ่มนวลกว่าที่เคยพร้อมรองรับการใช้น้ำมัน E85 ในทุกรุ่นย่อย สำหรับเครื่องยนต์ในซีดานรุ่นเล็กจากทั้ง 2 ค่าย ถือได้ว่ามีคะแนนที่ทัดเทียมกันอยู่ที่ผู้ขับเป็นผู้ตัดสินใจเลือกรูปแบบสมรรถนะของรถยนต์ตามความเหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง

เครื่องยนต์ 2NR-FBE Dual VVT-i

เปรียบเทียบความปลอดภัย Honda City กับ Toyota Vios

ระบบความปลอดภัย Honda City ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยหลากหลายฟังก์ชั่นมากขึ้น เช่น ระบบเบรก ABS ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชันแบบ Hill Start Asist (HSA) พร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-Force Control ที่ออกแบบเป็นพิเศษสามารถปกป้องห้องโดยสารจากการชนได้รอบทิศทาง

ระบบความปลอดภัยใน Honda City ยกตัวอย่างได้ดังนี้

• สัญญาณไฟอัตโนมัติขณะเบรกกระทันหัน ESS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD ที่มีให้ครบทุกรุ่น
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ แบบ Multi-angle Rearview Camera
• ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง และ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS
• ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbags

• ถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags

• โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนได้รอบทิศทาง

• คอนโซลหน้าตกแต่งจากวัสดุ Piano Black

• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System)

• ระบบกุญแจแบบนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย

ส่วนระบบความปลอดภัยของ Toyota vios 2018 ให้การปกป้องได้อย่างไม่น้อยหน้ากันมากนักด้วยกล้องมองภาพขณะถอยหลังพร้อมสัญญาณบอกระยะถอยหลัง ให้ความสะดวกสบายด้วยระบบละลายฝ้าในกระจกหลังเสริมให้สามารถขับขี่เมื่อมีอากาศเย็นหรือฝนตกได้อย่างไม่ติดขัด รวมถึงระบบเซ็นทรัลล็อคที่ให้การปกป้องอย่างคุ้มค่าในราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงจนเกินไปนัก

ระบบความปลอดภัยใน Toyota Vios 2018  ยกตัวอย่างได้ดังนี้

• ระบบเบรก ABS

• ระบบกระจายแรงเบรก EBD

• ระบบเสริมแรงเบรก BA

• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC

• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC

• ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS

• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ ELR

• เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR

• เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening)

• ระบบกุญแจนิรภัยอัจฉริยะ Immobilizer

• ระบบเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)

สรุป

เมื่อนำรถยนต์จากทั้ง 2 ค่าย มาเปรียบเทียบกันต้องยอมรับว่าสมรรถนะของเครื่องยนต์รวมถึงรูปโฉมภายนอกที่มุ่งเน้นการออกแบบให้มีความสปอร์ตมากขึ้นทั้งคู่ทำให้การตัดสินใจในการเลือกซื้อทำได้ยาก เมื่อมองถึงองค์ประกอบฟังก์ชั่นภายในอาจทำให้ Toyota Vios มีความเหลื่อมล้ำไปมากกว่า Honda City ที่ระบบอำนวยความสะดวกในอุปกรณ์พิ้นฐานบางอย่างไม่ได้ติดมาด้วย แต่หากมองจากภาพรวมด้านราคาที่มาพร้อมสมรรถนะในการขับขี่อย่างดีเยี่ยมแล้ว Honda City โฉมใหม่ยังคงเป็นรถ City Car ที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่งในปี 2018 นี้

>> ดูเพ่ิมเติม:

- จับกระแสความร้อนแรงของรถราคาหลักล้าน Toyota C-HR 2018 ปะทะ Mazda CX-3

- สัมผัสประสบการณ์ขับขี่อย่างเหนือระดับกับ All New Honda City 2018